การจากไปของ โธมัส แฟร้งค์ (Thomas Frank) ผู้จัดการทีมผู้สร้างตำนานที่พา เบรนท์ฟอร์ด (Brentford FC) ขึ้นมาสู่การเป็นทีมที่มั่นคงในพรีเมียร์ลีก ได้สร้างคำถามสำคัญว่า "ผึ้งพิฆาต" จะก้าวเดินต่อไปอย่างไร
คำตอบจากบอร์ดบริหารของสโมสรคือการเดิมพันที่กล้าหาญและสอดคล้องกับ DNA ของสโมสร นั่นคือการเลื่อนตำแหน่ง คีธ แอนดรูว์ส (Keith Andrews) อดีตโค้ชลูกตั้งเตะ (Set-Piece Coach) วัย 44 ปี ขึ้นมารับตำแหน่ง หัวหน้าโค้ช (Head Coach) คนใหม่ด้วยสัญญา 3 ปี
จากผู้เชี่ยวชาญลูกนิ่งสู่ผู้นำสูงสุด
การตัดสินใจแต่งตั้ง แอนดรูว์ส ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติไอร์แลนด์และโค้ชเซ็ตพีซที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ถือเป็นอีกครั้งที่เบรนท์ฟอร์ดเลือก "คนใน" ตามปรัชญาที่เน้นการพัฒนาบุคลากร
แอนดรูว์สมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ลูกตั้งเตะกลายเป็น "อาวุธร้าย" ของเบรนท์ฟอร์ด โดยเฉพาะเกมรับจากลูกนิ่งที่ทำได้ดี และสถิติที่น่าทึ่งในฤดูกาลที่ผ่านมา: ทีมของเขาทำประตูจาก ลูกทุ่มไกล ได้ถึง 6 ประตู ในขณะที่ทีมอื่น ๆ ในลีกทำได้รวมกันเพียง 2 ประตูเท่านั้น การเลื่อนตำแหน่งเขาจึงไม่ใช่เพียงแค่การรักษาความต่อเนื่อง แต่เป็นการให้รางวัลกับผู้ที่สามารถสร้างความแตกต่างทางแท็กติกให้กับสโมสรได้อย่างแท้จริง
ปรัชญาใหม่ที่เคารพรากฐานเดิม
ในการแถลงข่าวเปิดตัว แอนดรูว์ส ยืนยันว่าเขาจะยังคงเป็น "ตัวของตัวเอง" และให้ความเคารพต่อรากฐานที่แฟร้งค์สร้างไว้ แต่ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นที่จะ "รักษามาตรฐานและยกระดับมันให้สูงขึ้น" (Maintain and Enhance)
ฟิล ไจล์ส (Phil Giles) ผู้อำนวยการฟุตบอลของเบรนท์ฟอร์ด กล่าวว่า แอนดรูว์สเป็นโค้ชที่มีแนวคิดชัดเจนว่าจะพัฒนาทีมอย่างไร เขาเป็นผู้สื่อสารที่ดี และเป็นที่รักและเคารพของนักเตะ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่สโมสรมองหา
ในช่วงต้นฤดูกาลนี้ แอนดรูว์สแสดงให้เห็นถึงการปรับตัวทางแท็กติกด้วยการใช้ทั้งระบบ 5-3-2 และ 4-2-3-1 โดยเน้นการเล่นที่ หนักแน่นและดุดัน และให้ความสำคัญกับ องค์กรเกมรับ ที่มีวินัย ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจุดแข็งเดิมของทีม
ความท้าทายในยุคที่ไร้เงาดาวเด่น
การเริ่มต้นยุคใหม่ของแอนดรูว์สมาพร้อมกับความท้าทายครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเสียกำลังสำคัญในแนวรุกอย่าง ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ที่ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในทางกลับกัน การเข้ามาของนักเตะใหม่อย่าง อิกอร์ ธิอาโก้ (Igor Thiago) ก็แสดงศักยภาพในการเป็นกำลังหลักในแนวหน้าได้ดี
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นและผู้จัดการทีม แต่สิ่งที่เบรนท์ฟอร์ดยังคงรักษาไว้คือ ความเชื่อมั่นในกระบวนการทำงานภายใน และ ความกล้าที่จะมอบโอกาส ให้กับบุคลากรของตนเอง ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะตัดสินว่า ยุคของ คีธ แอนดรูว์ส จะสามารถนำพา "ผึ้งพิฆาต" ให้บินสูงต่อไปในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่
แอสตัน วิลล่า ยุคเอเมรี่ สร้างเส้นทางทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก






แสดงความคิดเห็น