หลังจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมในปี 2016 สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทั้งด้านสไตล์การเล่นและความสำเร็จ กลายเป็นทีมที่ถูกยกย่องว่ามีฟุตบอลที่สวยงามและมีประสิทธิภาพมากที่สุดทีมหนึ่งในโลก
จุดเริ่มต้น (2016–2017)
- ฤดูกาลแรก เป๊ปยังอยู่ในช่วงปรับทีม ผลงานไม่ถึงขั้นยอดเยี่ยม ยังไร้ถ้วยรางวัล แต่ถือเป็นการวางรากฐานทั้งระบบการเล่นและปรับปรุงโครงสร้างทีม
- มีการเสริมผู้เล่นใหม่หลายตำแหน่ง เช่น อิลคาย กุนโดกัน, เลรอย ซาเน่, กาเบรียล เชซุส และผู้รักษาประตู เคลาดิโอ บราโว่
ยุคทองของ "ฟุตบอลเพรสซิ่งและการครองบอล"
- 2017–2018: ซิตี้สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วย 100 คะแนนเต็ม (“Centurions”) ยิงรวม 106 ประตู และชนะถึง 32 นัด ถือเป็นหนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
- 2018–2019: ซิตี้ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ และคว้า ทริปเปิลในประเทศ (Domestic Treble) ได้แก่ พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และคาราบาว คัพ
- การเล่นของทีมถูกยกย่องว่าสมบูรณ์แบบ ทั้งการครองบอล, การต่อบอลสั้นแม่นยำ และการเพรสซิ่งดุดัน
การครองความยิ่งใหญ่ต่อเนื่อง
- 2020–2021: แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง และทะลุเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แม้จะแพ้เชลซี 0-1
- 2021–2022: ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในเกมสุดท้ายแบบสุดระทึก แซงลิเวอร์พูลด้วย 1 คะแนน
- 2022–2023: นี่คือปีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร คว้า ทริปเปิลแชมป์ (พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก) เทียบเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด (1999)
- จุดเด่นคือการมาของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ทำลายสถิติยิงประตูมากมาย
จุดแข็งในยุคเป๊ป
- สไตล์การเล่น – เน้นการครองบอล การต่อบอลเร็ว และการเคลื่อนที่เป็นระบบ
- การเสริมทัพคุณภาพ – นักเตะอย่าง เดอ บรอยน์, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, รูเบน ดิอาส, โรดรี และฮาแลนด์ คือแกนหลักที่ยกระดับทีม
- การพัฒนานักเตะ – เป๊ปสามารถพัฒนาผู้เล่นให้เก่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น สเตอร์ลิ่ง, กรีลิช, ฟิล โฟเด้น
- จิตวิทยาการแข่งขัน – ทีมมีความกระหายชัยชนะตลอดเวลา ไม่ยอมแพ้ง่าย
เกียรติประวัติในยุคเป๊ป (2016–ปัจจุบัน)
- พรีเมียร์ลีก : 5 สมัย (2017–18, 2018–19, 2020–21, 2021–22, 2022–23)
- เอฟเอ คัพ : 2 สมัย (2018–19, 2022–23)
- คาราบาว คัพ : 4 สมัย (2017–18, 2018–19, 2019–20, 2020–21)
- ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก : 1 สมัย (2022–23)
- ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ : 1 สมัย (2023)
- ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ : 1 สมัย (2023)








แสดงความคิดเห็น