ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไม่ใช่ทีมที่ประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน การก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรที่ยืนหยัดในพรีเมียร์ลีกได้นั้น เกิดจากการวางรากฐานอย่างมั่นคงของผู้จัดการทีมที่เข้ามาเปลี่ยนชะตาสโมสรทีละก้าว
หนึ่งในชื่อที่แฟนบอลยังคงยกให้เป็น “ตำนาน” ของทีมคือ คริส ฮิวจ์ตัน กุนซือที่เข้ามาคุมทีมในปี 2014 และพาไบรท์ตันเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในปี 2017 หลังจากรอคอยมานานกว่า 30 ปี ที่สำคัญคือเขาสามารถทำให้ทีมอยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุด ไม่กลับไปดิวิชั่นล่างอย่างที่หลายคนกังวล นี่คือรากฐานความมั่นคงที่แท้จริงของสโมสร
หลังจากยุคของฮิวจ์ตัน สโมสรได้ต่อยอดด้วย แกรม พ็อตเตอร์ ผู้ที่เข้ามายกระดับสไตล์การเล่น เน้นการครองบอลและเกมรุกเป็นระบบ ทำให้ไบรท์ตันกลายเป็นทีมที่แฟนบอลพรีเมียร์ลีกให้ความสนใจมากขึ้น และสร้างนักเตะพลังหนุ่มที่เข้ามาเป็นกำลังหลัก
ต่อเนื่องด้วย โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ ที่เข้ามาสานงานต่อและสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ ด้วยการพาไบรท์ตันไปเล่นยูฟ่า ยูโรปาลีกครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร นับเป็นก้าวกระโดดที่ยืนยันว่า รากฐานที่ฮิวจ์ตันเคยปูไว้นั้นยังคงแข็งแรง และพร้อมต่อยอดไปสู่ความสำเร็จใหม่ ๆ
เส้นทางของไบรท์ตันจึงเป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นว่า การสร้างทีมด้วยระบบและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน สามารถเปลี่ยนจากสโมสรที่เคยดิ้นรนหนีตกชั้นในลีกล่าง ให้กลายมาเป็นทีมที่ยืนหยัดและน่าจับตามองบนเวทีพรีเมียร์ลีกในวันนี้
แสดงความคิดเห็น