นักเตะสุดเจ๋ง แห่งแอนฟิลด์ ณ ปัจจุบัน !!

 

              แน่นอนว่าหากพูดถึงนักเตะสุดเจ๋งในลิเวอร์พูลในยุคปัจจุบันเเล้ว คงไม่พ้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ยอดกองหน้าชาวอียิปต์ของ ลิเวอร์พูล เกิด 15 มิถุนายน 1992 ที่แนกริก ประเทศอียิปต์ ตำแหน่ง กองหน้า,ปีก สูง 175 CM. โดยเริ่มจากการเล่นฟุตบอล ด้วยการหัดเตะบอลจากทีมท้องถิ่นในบ้านเกิด ก่อนที่ในปี 2010 จะได้ย้ายไปเป็นนักเตะระดับเยาวชนของ เอล โมคารุน ที่อยู่ห่างไกลจากเมืองที่พักอาศัยอย่างมาก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของซาลาห์เลย แต่ที่นี่เองที่ช่วยให้พัฒนาฝีเท้า โชว์ฟอร์มการเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถขึ้นมาเล่นในระดับเยาวชนทีมสำรอง จนสามารถขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ โดยใน 2 ฤดูกาล ที่เล่นให้กับที่นี่ ยิงไปได้ 11 ประตู จากการลงสนาม 38 นัด จนไปเข้าตาแมวมองของ บาเซิล ทีมชื่อดังของลีกสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ในปี 2012 บาเซิ่ล จัดการดึงตัว ซาลาห์ เข้ามาร่วมทีม ใชช่วงเเรกยังปรับตัวเข้ากับรูปแบบการเล่นของทีมไม่ได้ เลยไม่เริ่มที่ทีมสำรองก่อน ด้วยความมุ่งมั่นเเละพยายาม ก็ยกระดับตัวเองจนขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่สำเร็จ แต่ก็ยังเป็นแค่ตัวสำรองอยู่

กว่าซาลาห์ จะได้ลงสนามก็ใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งได้ลงสนามเป็นแมตช์แรก ในเกมที่ บาเซิ่ล เอาชนะ ธูน ไป 3-1 ในวันที่ 12 สิงหาคม ปี 2012 และหลังจากนั้น ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง สลับกับตัวสำรองอย่างต่อเนื่องทำผลงานได้ค่อนข้างยอดเยี่ยมทั้งเกมลีกในประเทศ และในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก การโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในถ้วยยุโรปนี่แหละ ทำให้ผลงานไปเข้าตาของ เชลซี ทีมยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก หลังจากที่ซุ่มดูฟอร์มมาอยู่นาน จนในปี 2014 เชลซี ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อตัว ซาลาห์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ได้กลายมาเป็นนักตะอียิปต์คนแรกในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกด้วย ได้เซ็นสัญญา 5 ปีครึ่ง และสวมหมายเลข 15 ให้กับทีม

การได้ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ถือเป็นการก้าวกระโดดอย่างมากของซาลาห์ แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะแผงกองกลางของเชลซีในชุดนั้น แข็งแกร่งและยอดเยี่ยมอย่างมาก มีทั้ง เชส ฟาเบรกาส, ออสการ์, เอเดน อาซาร์, เนมานย่า มาติช รวมทั้ง จอห์น โอบี มิเกล ทำให้ซาลาห์ไม่สามารถเบียดลงเล่นเป็นตัวจริงของทีมได้ ได้ลงสนามแค่ 13 นัดเท่านั้น ทำให้ ซาลาห์ เลือกที่จะขอย้ายออกจากทีม เพื่อที่จะหาโอกาสในการลงสนาม ซึ่ง เชลซี ก็ไม่ขัดขวางอะไร เมื่อได้ทำการปล่อยตัวให้ย้ายไปร่วมทีม ฟิออเรนติน่า ทีมชื่อดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา

ย้ายมาเล่นกับ ฟิออเรนติน่า ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอย่างมาก แต่ก็เตะอยู่ที่นี่ได้แค่ครึ่งซีซั่นเท่านั้น ก็ต้องย้ายทีมอีกครั้ง เมื่อซาลาห์ต้องการที่จะย้ายไปร่วมทีม โรม่า ทีมคู่แข่งร่วมลีก แม้ว่าฟิออเรนติน่า ต้องการจะซื้อขาด แต่ซาลาห์ก็ไม่ต้องการอยู่นี่ถาวร จนในที่สุดก็ได้ย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของทีม โรม่า สมดังตั้งใจ

การย้ายมาเล่นในรูปแบบการยืมตัว ซาลาห์ ก็ฟอร์มการเล่นได้อย่างร้อนแรง ยิงไปถึง 15 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 42 นัดในทุกรายการ กลายเป็นตัวหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย ซึ่งทำให้ โรม่า ตัดสินใจที่จะซื้อขาดด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ และในซีซั่นที่สองกับ โรม่า นี้เอง ที่ ซาลาห์ ระเบิดฟอร์มการเล่นได้อย่างสุดยอดอย่างมาก เขายิงประตูไปถึง 19 ลูก กับอีก 15 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 41 นัดในทุกรายการ จนได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรไปอีกด้วย

จนในที่สุดการเล่นของซาลาห์ก็พาตัวเองได้กลับเข้ามาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชชาวเยอรมันของ ลิเวอร์พูล ต้องการที่จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่ เพื่อการนำทัพ "หงส์แดง" กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ในลีกอังกฤษให้ได้  และก็ไปต้องตาต้องใจกับฟอร์มการเล่นของซาลาห์เข้าให้  หวังที่จะสอยตัวมาร่วมทีมให้ได้ และในวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 ซาลาห์ ก็ได้ย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล อย่างเป็นทางการ ด้วยค่าตัวที่เป็นสถิติสโมสรถึง 42 ล้านปอนด์

เพียงฤดูกาลแรกกับ "หงส์แดง" ซาลาห์ ก็แสดงให้เห็นทันทีว่าเก่งด้วยความสามารถจริงๆ เมื่อลงเล่นไป 52 นัดในทุกรายการ ยิงไปถึง 44 ลูก และแอสซิสต์ไป 16 ครั้ง คว้าอันดับดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีก และพาทีมจบอันดับ 4 ของตาราง แถมยังพาทีมเข้าชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย แต่ว่าก็ไปแพ้ให้กับ เรอัล มาดริด 1-3 ได้แค่รองแชมป์เท่านั้น และนับจากนั้นก็เเสดงผลงานมาให้เห็นเรื่อยๆจนปัจจุบัน

ผลงานเกียรติประวัติ

บาเซิล : แชมป์ สวิสซูเปอร์ลีก : 2012-13 , 2013-14

เชลซี : แชมป์ พรีเมียร์ลีก : 2014-15
             แชมป์ อีเอฟแอลคัพ : 2014-15

ลิเวอร์พูล : แชมป์ พรีเมียร์ลีก : 2019-20
                   แชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก : 2018-19
                   แชมป์ ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : 2019
                   แชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก : 2019