เรอัล มาดริด สโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและน่าทึ่งในวงการฟุตบอล โดยเฉพาะในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงโค้ชที่สำคัญ และบทบาทของพวกเขาที่มีต่อการพัฒนาทีมสู่ความสำเร็จ โค้ชของเรอัล มาดริดไม่ได้เพียงแค่รับหน้าที่บริหารจัดการทีม แต่ยังเป็นผู้ที่กำหนดทิศทางและสไตล์การเล่นที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของสโมสร ในบทความนี้จะพาไปดูการเปลี่ยนแปลงของโค้ชในอดีตจนถึงปัจจุบันของเรอัล มาดริด
โค้ชในอดีต: ยุคทองของเรอัล มาดริด
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เรอัล มาดริดเริ่มต้นการเดินทางของตัวเองในวงการฟุตบอล สโมสรก่อตั้งขึ้นในปี 1902 แต่การเข้าสู่ยุคของการเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่เริ่มต้นในช่วงปี 1950s โดยมีโค้ชคนแรกที่มีบทบาทสำคัญคือ หลุยส์ โมล โค้ชชาวสเปนที่นำทีมคว้าแชมป์ลาลีกาในปี 1931 ก่อนที่จะได้รับความสำเร็จในระดับสากล
แต่โค้ชคนที่โดดเด่นที่สุดในช่วงปี 1950s-1960s คงจะเป็น ซานติอาโก้ เบร์นาบิว ผู้ที่มีบทบาทเป็นทั้งผู้บริหารและโค้ชคนสำคัญของสโมสร เบร์นาบิวช่วยสร้างทีมที่ครองแชมป์ในหลายๆ รายการ รวมถึงการคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพ 5 สมัยติดต่อกันในยุคที่ทีมมีนักเตะระดับโลก เช่น อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน และ ฟรานซิสโก้ เกนโต้
หลังจากเบร์นาบิว เรอัล มาดริดก็มีโค้ชที่น่าจดจำมากมาย เช่น วินเซนโซ่ มอนเตลล่า, อาร์แซน เวนเกอร์ และ หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งแต่ละคนต่างก็มีสไตล์การเล่นที่หลากหลายและนำมาซึ่งการพัฒนาทีมในทิศทางต่างๆ อย่างไรก็ตาม โค้ชที่พาทีมไปสู่ความสำเร็จระดับโลกก็ยังคงเป็นที่จดจำอยู่เสมอ
โค้ชในยุคใหม่: พัฒนาและครองความยิ่งใหญ่
ในยุค 2000s เป็นต้นมา เรอัล มาดริดเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในการคัดเลือกโค้ช และการเซ็นสัญญากับนักเตะระดับโลกมากมาย ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนทีมไปข้างหน้า โดยเฉพาะ ฟาบิโอ คาเปลโล ในปี 2006 ที่พาทีมคว้าแชมป์ลาลีกาในปี 2007 ก่อนที่โค้ชคนต่อไปจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ
หนึ่งในโค้ชที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดในยุคใหม่ของเรอัล มาดริดคือ โฆเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกสที่เข้ามาคุมทีมในปี 2010 ด้วยความสามารถในการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง เขานำทีมคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ในปี 2011 และได้รับการยอมรับว่าเป็นโค้ชที่ทำให้เรอัล มาดริดกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
ความสำเร็จภายใต้ ซีเนดีน ซีดาน
อย่างไรก็ตาม โค้ชที่สร้างความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้กับเรอัล มาดริดในยุคหลังคือ ซีเนดีน ซีดาน เขาเข้ามารับตำแหน่งในปี 2016 และพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 สมัยติดต่อกัน (2016, 2017, 2018) รวมถึงแชมป์ลาลีกาและโคปา เดล เรย์อีกหลายสมัย ซีดานได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เนื่องจากการใช้สไตล์การเล่นที่เน้นการควบคุมเกมและการปรับใช้บุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่าผลงานของซีดานในปี 2020-2021 จะไม่ดีเท่าที่คาดหวัง แต่ความสำเร็จในยุคที่เขาคุมทีมยังคงมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของเรอัล มาดริด
โค้ชปัจจุบัน: คาร์โล อันเชล็อตติ
ปัจจุบัน คาร์โล อันเชล็อตติ คือโค้ชของเรอัล มาดริด ซึ่งกลับมาคุมทีมอีกครั้งในปี 2021 หลังจากที่เคยทำผลงานดีในช่วงระหว่างปี 2013-2015 อันเชล็อตติเป็นโค้ชที่มีประสบการณ์มากมายในการคุมทีมใหญ่ ๆ และเคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกกับเรอัล มาดริดในปี 2014 การกลับมาของเขาครั้งนี้ทำให้สโมสรคาดหวังว่าความสำเร็จจะกลับมาอีกครั้ง
ในฤดูกาล 2021-2022 อันเชล็อตติพาทีมคว้าแชมป์ลาลีกาและยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ของเรอัล มาดริดในยุคปัจจุบัน
สรุป
โค้ชของเรอัล มาดริดในอดีตและปัจจุบันได้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันทีมให้กลับมายิ่งใหญ่ตลอดหลายทศวรรษ การเลือกโค้ชที่มีความสามารถและสไตล์การเล่นที่เหมาะสมทำให้เรอัล มาดริดเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายในแต่ละยุคก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือวิสัยทัศน์ของสโมสรในการเป็นทีมที่ดีที่สุดในโลก และมีโค้ชที่สามารถพาทีมไปสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง





إرسال تعليق